หน้าแรก » ข่าว » 10 สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดยะลา 2024

10 สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดยะลา 2024

10 สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดยะลา 2024

บทนำ

จังหวัดยะลา ตั้งอยู่ที่ปลายสุดของประเทศไทยทางตอนใต้ เป็นแหล่งรวมมรดกทางวัฒนธรรมอันรุ่งเรืองและแหล่งธรรมชาติที่งดงาม ตั้งแต่วัดโบราณจนถึงชายหาดที่มีทิวทัศน์สวยงาม มีสิ่งน่าสนใจให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์ ต่อไปนี้คือ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ต้องไปเยือนในจังหวัดยะลาสำหรับปี 2024

1. กุนุงซิลิปัต หรือ ฆูนุงสีรีปัต

 เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามมากๆ อีกจุด ที่อยู่ใน ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลาที่นี่มีเอกลักษณ์อย่างโดดเด่นคือ นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวทะเลหมอกได้แบบรอบทิศ 360 องศาเลย ทำให้เป็นจุดชมวิวที่สวยงามและน่าสนใจอย่างมากสำหรับทุกคนที่มาเยือน  เดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเมษายนค่ะ นอกจากคนไทยอย่างเราๆ แล้ว ที่นี่ยังเป็นที่เที่ยวยอดฮิตของเพื่อนบ้าน อย่าง อินโดนีเซีย และ มาเลยเซีย

2. ป่าฮาลาบาลา: ป่าดิบชื้นอุดมสมบูรณ์แห่งคาบสมุทรมลายู

ป่าฮาลาบาลา เป็นบริเวณของป่าดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,500 ตารางกิโลเมตร ในจังหวัดนราธิวาส ถือเป็นผืนป่าดิบชื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดของคาบสมุทรมลายู จนได้รับฉายาว่าเป็น “อเมซอนแห่งเอเชีย”[2] ป่าแห่งนี้เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสายในภาคใต้ตอนล่าง และเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครองที่สำคัญมากมายหลายชนิด โดยที่โดดเด่นสุดๆ ก็คือ นกเงือก ซึ่งมีมากกว่า 10 ชนิดในป่าแห่งนี้[2] นอกจากความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติแล้ว ป่าฮาลาบาลายังเป็นแหล่งรวมของวัฒนธรรมพื้นบ้านที่หลากหลาย อาทิ ตำนานเรื่อง “บาเตาะ” ชนเผ่าที่ถูกกล่าวขานว่ามีความเชื่อเรื่องการกินเนื้อคน[2] ทำให้ป่าแห่งนี้มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติและวัฒนธรรมพื้นบ้านเป็นอย่างมาก

ด้วยความอุดมสมบูรณ์และความสำคัญทางนิเวศวิทยา ป่าฮาลาบาลาจึงได้รับการประกาศให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในปี 2554 โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช[2] เพื่อคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ให้คงอยู่สืบไป

3. พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง

พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมืองเบตง จังหวัดยะลา โดยที่นี่เราจะได้รู้เรื่องราวความเป็นมาของเมืองอย่างละเอียด รวมถึงยังได้เห็นโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ข้าวของเครื่องใช้ในสมัยเก่าต่างๆ มากมายเลยทีเดียว

ภายในพิพิธภัณฑ์จะมีการแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เบตงอย่างละเอียด รวมถึงยังมีโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และข้าวของเครื่องใช้ในสมัยเก่าต่างๆ มากมายที่จะให้นักท่องเที่ยวได้รู้เรื่องราวความเป็นมาของเมืองอย่างละเอียด

ความพิเศษของพิพิธภัณฑ์เมืองเบตง ก็คือ ชั้นที่ 3 เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นเบตงได้ทั้งเมืองเลยค่ะ นักท่องเที่ยวสามารถมาชมนิทรรศการ และถ่ายรูปสวยๆ กับวิวเมืองเบตงกันได้เลยที่นี่จ้า

4. สวนขวัญเมือง

สวนขวัญเมือง เป็นสวนสาธารณะที่ได้รับความนิยมจากชาวบ้านในพื้นที่นิยมมาพักผ่อนหย่อนใจ มานั่งปิกนิก มานั่งชิลริมร้านอาหารริมน้ำกัน หรือถ้าใครอยากมาออกกำลังกาย ก็เป็นจุดที่สามารถออกกำลังกายได้ชิลมากเช่นกัน และมีเอกลักษณ์อย่างโดดเด่นคือ มีบรรยากาศริมน้ำที่สวยงาม มีอาหารริมน้ำที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มมากมาย นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวสวยๆ ของเมืองเบตงได้เลย นอกจากบรรยากาศสวยๆ แล้ว สวนขวัญเมืองยังมีจุดที่สามารถออกกำลังกายได้มากมาย อาทิ สนามเดินจักรยาน สนามโยก สนามฟุตบอล และสนามวิ่ง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีจุดที่สามารถมานั่งปิกนิก และมานั่งชิลริมน้ำได้เช่นกัน

5. อุทยานแห่งชาติบางลาง

อุทยานแห่งชาติบางลาง เป็นอุทยานแห่งชาติที่สำคัญของ จังหวัดยะลา ครอบคลุมพื้นที่ใน อำเภอบันนังสตา อำเภอธารโต และอำเภอเบตง โดยครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1,300 ตารางกิโลเมตร[1]。

อุทยานแห่งชาติบางลางเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญของ แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำสายบุรี คลองโต๊ะโมะ คลองฮาลา และคลองบ้านเจ็ด รวมไปถึงเป็นแหล่งอาศัยที่สำคัญของสัตว์ป่าหายากหลายชนิดด้วยกัน โดยเฉพาะนกเงือก ซึ่งพบมากกว่า 10 สายพันธุ์[2]。ภายในอุทยานแห่งชาติบางลางมีธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์มาก โดยมีภูเขาสลับซับซ้อน เป็นป่าฝนเขตร้อน มีความชื้นสูงตลอดปี เป็นต้นน้ำของแม่น้ำหลายสาย มีสัตว์ป่าคุ้มครองที่สำคัญ แนวป่าต่อเนื่องจากป่าเบลุ่มทางตอนเหนือของมาเลเซีย หากรวมเป็นผืนใหญ่ถือเป็นป่าดิบชื้นที่ใหญ่ที่สุดของคาบสมุทรมลายู[2]。นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมธรรมชาติแบบใกล้ชิดภายในอุทยานแห่งชาติบางลาง โดยมีเส้นทางเดินป่าหลายเส้นทาง รวมไปถึงมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวสวยๆ ของธรรมชาติได้

6. วัดคูหาภิมุข หรือ วัดหน้าถ้ำ: แหล่งประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม

วัดคูหาภิมุข หรือ วัดหน้าถ้ำ เป็นวัดสำคัญในจังหวัดยะลา ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน โดยวัดนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2390 โดยผู้ใหญ่บ้านที่อาศัยอยู่ที่บ้านหน้าถ้ำ เพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลในหมู่บ้าน ภายในวัดมีถ้ำขนาดใหญ่ ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ และมีหินงอกหินย้อย น้ำที่ไหลจากโขดหินอีกด้วย

ภายในวัดคูหาภิมุขยังมีพิพิธภัณฑ์ศรีวิชัย ที่เก็บพวกวัตถุโบราณที่ได้มาจากภายในวัด รวมไปถึงภูเขากำปั่น พระพิมพ์ดินดิบ สถูปเม็ดพระศก เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีหินงอกหินย้อย และน้ำใสสะอาดไหลรินจากโขดหินภายในถ้ำ

วัดคูหาภิมุขมีความสำคัญอย่างมากในประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมของจังหวัดยะลา โดยมีพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้พระยายะหริ่งมาสร้างเมืองยะลา ตั้งที่ว่าราชการ ณ บ้านท่าสาป ตำบลท่าสาป และสร้างวัดขึ้นที่ริมเขาหน้าถ้ำ ที่มีพระพุทธไสยาสน์ภายในถ้ำ พ.ศ.2472 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จมาประทับแรมที่วันแห่งนี้ มีพระปรมาภิไธย ย่อ ป.ป.ร. ที่ผาหินภายในวัดคูหาภิมุข

ตำบลหน้าถ้ำ เคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ พบร่องรอยศาสนสถาน เมืองโบราณ ซึ่งเป็นศาสนสถานที่พบเทวรูปสำริด กำแพงเมือง พระพิมพ์ดินดิบแบบทวารวดีศรีวิชัย ภาพเขียนสีพระพุทธรูปฉาย ภาพเขียนสีราชรถมีสัตว์เทียม มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 15-17

7. บ่อน้ำร้อนเบตง: บ่อน้ำร้อนธรรมชาติที่น่าสนใจในยะลา

บ่อน้ำร้อนเบตง เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดยะลา มีอุณหภูมิประมาณ 80 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถต้มไข่ไก่ให้สุกภายใน 7 นาทีได้[1] บ่อน้ำร้อนแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม มีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นล้อมรอบ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมจากชาวเบตงและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว บ่อน้ำร้อนเบตงยังมีประโยชน์ในการบรรเทาและรักษาโรคภัยต่างๆ เนื่องจากน้ำร้อนที่มีแร่ธาตุและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายภายในบริเวณบ่อน้ำร้อนยังมีบ่อให้นักท่องเที่ยวได้แช่น้ำร้อนหลายบ่อ ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย

8. อุโมงค์ปิยะมิตร

อุโมงค์ปิยะมิตร เป็นอุโมงค์คดเคี้ยวที่อยู่เข้าไปในภูเขายาวกว่า 1 กิโลเมตร มีความกว้าง 50-60 ฟุตเลย และมีทางเข้าออกหลายทางด้วยกันค่ะ โดยที่นี่เคยเป็นฐานของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (เขต 2) ที่ใช้เป็นฐานหลบภัยทางอากาศและสะสมเสบียงนั่นเอง[1]

ภายในอุโมงค์จะมีการจัดนิทรรศการจำลองภาพประวัติศาสตร์ วิถีการดำเนินชีวิตภายในป่าต่างๆ เอาไว้นั่นเองค่ะ โดยนิทรรศการจะแสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา และวิถีชีวิตของชาวป่าในสมัยก่อน นอกจากนี้ยังมีภาพและวัตถุโบราณที่เกี่ยวข้องกับพรรคคอมมิวนิสต์มลายา รวมไปถึงประวัติศาสตร์ของอุโมงค์ปิยะมิตรเองด้วย

อุโมงค์ปิยะมิตรเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในจังหวัดยะลา โดยมีเอกลักษณ์อย่างโดดเด่นคือ เป็นอุโมงค์คดเคี้ยวที่ยาวและกว้างมาก โดยมีทางเข้าออกหลายทางด้วยกัน ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปภายในอุโมงค์ได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีบรรยากาศที่สวยงามภายในอุโมงค์ด้วย

สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม สามารถไปชมได้ที่ อุโมงค์ปิยะมิตร ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา โดยสามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งปี

9. อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์

อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ เป็นอุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขาแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่ในจังหวัดยะลา เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยบริเวณนี้เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนที่มีการประดับไฟอย่างสวยงาม

อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์มีความยาวประมาณ 1.8 กิโลเมตร เป็นอุโมงค์ที่ขุดเจาะผ่านภูเขาเพื่อให้รถยนต์สามารถสัญจรผ่านได้ โดยเริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2532 และแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2535 ใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 1,200 ล้านบาท[1]นอกจากจะเป็นอุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขาแห่งแรกของประเทศไทยแล้ว อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเคยเป็นเส้นทางสำคัญในการติดต่อค้าขายระหว่างประเทศไทยกับมาเลเซีย

10. สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง

สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ตั้งอยู่ที่บริเวณบ้านธารมะลิ ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา โดยมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,038 ฟุต ใช้งบในการก่อสร้างมากกว่า 91 ล้านบาทเลยทีเดียว เพื่อสร้างที่นี่ขึ้นมาให้นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวทิวทัศน์ของทะเลหมอก ได้แบบรอบทิศ 360 องศาเลย

ที่นี่มีเอกลักษณ์อย่างโดดเด่นคือ พื้นระเบียงทางเดินจะเป็นกระจกใส ยาว 61 เมตร ถือว่าเป็นสกายวอล์คที่ยาวที่สุดในอาเซียนอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวทะเลหมอกได้แบบรอบทิศ 360 องศาเลย ทำให้เป็นจุดชมวิวที่สวยงามและน่าสนใจอย่างมากสำหรับทุกคนที่มาเยือน

แหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้นำเสนอประสบการณ์ผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความงามของธรรมชาติ ทำให้จังหวัดยะลาเป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องไปเยือนในปี 2024

ข่าวน่าสนใจ